สินค้ามีการเคลื่อนย้ายจากต้นทางจนถึงปลายทาง การเคลื่อนย้ายต้องใช้การขนส่งรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือผสมกันหลายรูปแบบ การขนส่งผู้โดยสารก็ต้องผ่านกระบวนการต่างๆตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำเช่นกัน การขนส่งสินค้าและผู้โดยสารจึงมีผู้เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.ผู้ส่งของ(Shipper or Consignor) ผู้ส่งของเป็นผู้ตัดสินใจเลือกรูปแบบการขนส่ง ซึ่งอาจจะเป็นรถบรรทุก รถไฟ เรือ เครื่องบินหรือท่อ ทั้งนี้หลักการในการตัดสินใจเลือกรูปแบบและผู้ขนส่งนั้น คือ ให้มีต้นทุนการขนส่งต่ำ สินค้าถึงที่หมายปลายทางตามเวลาที่กำหนด โดยมีสภาพที่สมบูรณ์และครับถ้วน
ความต้องการบริการของผู้ส่งของมีจุดมุ่งหมายที่สำคัญ คือ การตอบสนองและสร้างความพึงพอใจกับลูกค้าของทางบริษัท การขนส่งนั้นมีผลกระทบต่อการตลาดและราคาสินค้า สินค้าจะต้องมีพร้อมขายในเวลาและสถานที่ที่มีความต้องการ หากการขนส่งขาดความแน่นอนลูกค้าลูกค้าจะไม่มีสินค้าขายเป็นการสูญเสียโอกาสที่จะทำกำไรและอาจสูญเสียลูกค้าได้ด้วยเช่นเดียวกัน
2.ผู้รับของ(Consignee) ผู้รับของมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจใช้บริการขนส่ง เงื่อนไขในการซื้อขายกำหนดว่าผู้ใดรับผิดชอบจัดการขนส่ง การซื้อขายในเงื่อนไข E-Term และ F-Term ผู้ซื้อมีหน้าที่จัดหาการขนส่ง การเลือกรูปแบบการขนส่งและผู้รับขนจะพิจารณาต้นทุนขนส่ง ความรีบด่วนในการใช้สินค้า ต้นทุนสินค้าคงคลังและอื่นๆความต้องการของผู้รับของอาจจะแตกต่างไปตามประเภทของธุรกิจ ผู้รับของที่เป็นร้านค้าปลีกมีสินค้าไว้เพื่อขาย ร้านค้าปลึกจึงต้นมีสินค้าไว้พร้อม
3.ผู้รับขน(Carrier) ผู้รับขนคือผู้ให้บริการขนส่ง ผู้รับขนประกอบด้วย ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุก รถไฟ เครื่องบิน เรือและทางท่อ ผู้รับขนมีหน้าที่จัดการขนส่งตามความต้องการของลูกค้า ลูกค้ามีความต้องการบริการขนส่งที่รวดเร็ว เชื่อถือได้และราคาที่เหมาะสม ผู้รับขนจึงต้องมียานพาหนะขนส่ง มีสถานีที่ต้นทางและสถานีกระจายสินค้าที่ปลายทาง ผู้รับขนอาจให้บริการแบบจากที่ถึงที่รวมทั้งการขนส่งแบบต่อเนื่องหลายรูปแบบหรือต่างรูปแบบ(Multi-modal transport or inter-modal transport) ผู้รับขนอาจจะแบ่งเป็นผู้ให้บริการกับบุคคลทั่วไป(Public Carrier) ผู้ให้บริการเฉพาะลูกค้า(Contract carrier) ผู้ให้บริการแบบเหมาคันหรือผู้ให้บริการกับผู้ส่งของรายย่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น