- การพยากรณ์แบบไร้หลักการ (Informal forecasting technique) ใช้การคาดเดาในการพยากรณ์
- การพยากรณ์แบบมีหลักการ (Formal forecasting technique)
2.1 การพยากรณ์เชิงคุณภาพ (Qualitative forecasting)
การพยากรณ์เชิงคุณภาพจะไม่ใช้ข้อมูลในอดีต แต่จะได้จากการสอบถามฝ่ายบริหาร (Executive opinions), ความเห็นจากพนักงานขาย (Sales staff opinions), การสำรวจลูกค้า (Customer survey), หรือ ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert opinions) ซึ่งวิธีการเพื่อให้ได้ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญนิยมใช้วิธีเดลไฟ (Delphi Method) พัฒนาโดย The Rand Corp. ในปี 1948 โดย คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญ ส่งแบบสอบถาม รวบรวมผลลัพธ์และส่งผลกลับไปหาผู้เชี่ยวชาญ รวบรวมผลลัพธ์ใหม่เพื่อแก้ไขผลพยากรณ์ ส่งผลลัพธ์กลับไปหาผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะทำอย่างนี้ประมาณ 3 รอบหากมีมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์ วิธีนี้เหมาะสำหรับการพยากรณ์เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในองค์กร
2.2 การพยากรณ์เชิงปริมาณ (Quantitative forecasting)
2.2.1 การพยากรณ์แบบอนุกรมเวลา (Time series forecasting)
- การพยากรณ์แบบนาอีฟ (Naïve) คือใช้ค่าจริงที่เกิดขึ้นจากคาบเวลาที่แล้วมาเป็นค่าพยากรณ์ Ft = At-1เช่น เดือนที่แล้ว ขายได้ 1000 ชิ้น เดือนนี้น่าจะขายได้ 1000 ชิ้นเช่นกัน
- การพยากรณ์แบบค่าเฉลี่ยปรับเรียบอย่างง่าย(Simple Smoothing Average)
- การพยากรณ์แบบค่าเฉลี่ยปรับเรียบแบบถ่วงน้ำหนัก(Weighted Smoothing Average)
- การพยากรณ์แบบปรับเรียบแบบเอ็กซ์โปเน็นเชี่ยล(Exponential Smoothing)
- การพยากรณ์แบบกำลังสองน้อยที่สุดเชิงเส้น(Linear Least Square)
- การพยากรณ์แบบกำลังสองน้อยที่สุดแบบเอ็กซ์โปเน็นเชี่ยล(Exponential Least Square)
2.2.2การพยากรณ์เชิงสหสัมพันธ์ (Correlative forecasting)
- การวิเคราะห์การถดถอย (Regression Analysis)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น